ทำความรู้จักกับคีโตเจนิคแบบเข้าใจง่ายกัน

ถ้าจะให้กล่าวถึง การลดน้ำหนัก แน่นอนว่า คีโตเจนิค นั้นได้รับความนิยมอย่างสูงมากๆ ในเมืองไทย จนมีร้านอาหาร คีโต ร้านขนม คีโต ขึ้นมารองรับความนิยม และความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างมาก

คีโตเจนิค แต่แรกเริ่มเลย ถูกใช้ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวาน ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 นอกจากอาการเบาหวานที่ดีขึ้น การทาน คีโตเจนิค ในกลุ่มผู้ป่วยกลับให้สิ่งหนึ่งมาเป็นของขวัญนั่นก็คือ น้ำหนักที่ลดลง จึงทำให้ คีโตเจนิค เลยเริ่มได้รับความนิยมในฐานะใหม่ นั่นก็คือ หนทางสู่การลดน้ำหนักนั่นเอง

คีโตเจนิค เป็นวิธีการลดน้ำหนักที่เน้นไปที่การทาน คาร์บ ในปริมาณที่ต่ำ ซึ่งก็จะคล้ายกับ diet approach อื่นๆ ที่เคยได้รับความนิยม ในอดีตอย่าง paleo diet, atkins diet แต่จุดที่แตกต่างคือ คีโตเจนิค นั้นกลับมีการทานไขมันในปริมาณที่สูง

what does ketogenic food look like?

การทานแบบ คีโตเจนิค คือการทาน ไขมันมากที่สุด โปรตีนในระดับปานกลาง และคาร์โบไฮเดรต ระดับต่ำ ซึ่งจะทานมั่วๆก็ไม่ได้เช่น กันเพราะจะทำให้ร่างกายอาจจะ switch กลับมาใช้กลูโคสเป็นพลังงานหลักอีกครั้ง

สัดส่วน ที่นิยมจะเป็น

FAT 70% - 80%

PROTEIN 10% - 20%

CARBOHYDRATE 5% - 10%

สมมติว่า ในหนึ่งวันต้องการพลังงาน 2000 Kcals เท่ากับว่าจะต้องทานสารอาหารแต่ละกลุ่มโดยประมาณดังต่อไปนี้

FAT 165 g หรือประมาณไข่ไก่ ประมาณ 33 ฟอง

CARBOHYDRATE 40 g หรือ ข้าวขาวหุงสุกประมาณ 130 กรัม (ข้าว 7-11 serving ละ 150 กรัม)

PROTEIN 75 g หรือไก่ประมาณเกือบ 400g

จากสัดส่วนจะเห็นได้ว่า ไขมันที่ต้องทานในแต่ละวันจัดว่า สูงลิ่วเลยทีเดียว ซึ่งสัดส่วนไขมันในระดับที่สูงนี้ก็ทำให้เกิดข้อสงสัย ตามมาในกลุ่มคนที่อาจจะรู้จัก คีโตเจนิค แต่ยังมีระดับความเข้าใจอย่างจำกัดนั่นเอง

ทำไมทานไขมัน แต่น้ำหนักลง?

ผลิตภัณฑ์ LOW-FAT เป็นตัวบอกได้อย่างดีว่า มีกลุ่มผู้บริโภคหลายคน พยายามหลีกเลี่ยงการทานไขมัน เพราะไขมัน 1 กรัมให้พลังงานสูงถึง 9 kcal จึงถูกมองถ้ากินเยอะๆ เนี่ยอ้วนแน่นอน

ต้องทำความเข้าใจก่อนเบื้องต้นว่า ความอ้วนไม่ได้เกิดจาก ไขมันเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการทานเกินจากพลังงานที่ใช้ ในแต่ละวัน (excess calories)

แล้วกลไกไหน ของ Ketogenic diet ที่ช่วยลดไขมันและลดน้ำหนัก?

1. ใช้ไขมันเป็นพลังงานหลัก เคยรู้สึก ไหมว่าเวลาได้เราทานน้ำหวาน จะสดชื่น มีแรง แล้วพอหลังจากนั้นก็จะซึมและเข้าสู่ความง่วงได้เลย ถ้าเคยรู้สึกถึงอาการเหล่านี้ ยินดีด้วยค่ะ คุณคือคนปกติทั่วไป ที่ร่างกายใช้พลังงานจาก น้ำตาลกลูโคส เป็นหลัก ซึ่งทำให้ร่างกายเราไม่จำเป็นที่จะต้องไปดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน

การจะทำให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน ทำได้โดยการตัดน้ำตาลกลูโคส ซึ่งทำได้ง่ายๆโดยการไม่ทานคาร์บ หรือทานในปริมาณที่ต่ำมากๆ เพื่อให้ร่างกายเริ่มไปดึงกลูโคสที่สะสมไว้ในตับ หรือในกล้ามเนื้อมาใช้หมด ตับก็จะเริ่มสร้าง ketone โดยใช้พลังงานจากไขมัน มาทดแทนการใช้พลังงานจากกลูโคส และเมื่อ Ketone เพิ่มสูงในเลือด ระดับฮอร์โมนอินซูลิน ก็จะอยู่ในระดับเสถียร

2. หิวน้อยลง เมื่อร่างกายเข้าสู่สภาวะ ketosis ฮอร์โมนอย่าง insulin และ ghrelin จะไม่อยู่ในสภาวะ ผันผวนขึ้นๆลงๆ มากนักเพราะร่างกายสามารถดึงไขมันมาใช้ได้ ไม่ต้องเรียกร้องหาจากการทานอาหาร

นอกจากประโยชน์ในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ของการทาน คีโตเจนิค

การทานคีโตเจนิคยังมีประโยชน์อื่นๆ ที่ดีต่อสุขภาพไม่น้อยไปกว่าการลดน้ำหนัก