เจาะลึก น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น และ MCT oil คืออะไร เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ประโยชน์มีอะไรบ้าง ?

Coconut Oil VS MCT oil ไม่เหมือนตรงไหนเอาปากกามาวง⁠

ความต่างจุดแรก "ความยาวของสายคาร์บอนอะตอม⁠"

⁠

MCT Oil ย่อมาจาก “Medium-chain Triglyceride” Oil จัดเป็น Medium-chain fatty acids (MCFA) หรือ กรดไขมันอิ่มตัวสายกลาง ดังนั้นใน MCT oil จะมีเพียงกรดไขมันอิ่มตัวสายกลางเท่านั้น⁠

⁠

ซึ่งแบ่งเพิ่มออกเป็น 3 ชนิดค่ะ คือ⁠

C-6 Caproic acid , C-8 Caprylic acid , C-10 Capric acid⁠

⁠

แล้วน้ำมันมะพร้าวหล่ะ มีกรดไขมันอิ่มตัวชนิดไหน ?⁠

อย่างที่ได้กล่าวไปในโพสก่อนหน้า Fatty Acids ในน้ำมันมะพร้าวแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ตามความยาวของสายคาร์บอนอะตอม⁠

* Short-chain fatty acids (SCFA)⁠

* Medium-chain fatty acids (MCFA)  หรือ MCTs⁠

* Long-chain fatty acids (LCFA)⁠

* ⁠

ในน้ำมันมะพร้าวมี LCFA อยู่ประมาณ 45%-53% และมี MCTs อยู่ประมาณ 15%⁠

⁠

สรุปง่ายๆคือ MCT oil มี Medium-chain fatty acids (MCFA) หรือ MCTs 100% ในขณะที่น้ำมันมะพร้าวมี MCTs อยู่เพียง 15%⁠

⁠

ความต่างจุดที่ 2 "ประโยชน์"⁠

⁠

ประโยชน์ของ MCT oil⁠

⁠

• ย่อยและดูดซึมได้ดี ⁠

• MCT โดยเฉพาะตัว C-6, C-8, C-10 มีลักษณะเด่นคือมันจะสามารถผ่านระบบการย่อยปกติแล้วไปที่ตับได้โดยตรง ทำให้เปลี่ยนเป็น Ketone ได้ทันที ⁠

• สามารถดูดซึมเข้าสู่ตับโดยตรง ไม่ต้องพึ่งน้ำดีในการย่อยก่อน ⁠

• ช่วยเพิ่มพลังงาน

• ช่วยในการทำงานของระบบสมอง ⁠

• ช่วยลด ภาวะดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) ⁠

• ช่วยควบคุมความหิว⁠

• เหมาะสำหรับผู้ที่ทำ IF ช่วยให้ Fast ได้นานขึ้น เพราะช่วยควบคุมความหิว ⁠

• เป็นพลังงานที่ใช้ได้ทันที สำหรับผู้ออกกำลังกาย เช่น เป็นนักวิ่งมาราธอน ออกกำลังกายหนัก โดยไม่พึ่งกลูโคส⁠

• ขุมพลังของสมอง โดยปราศจากคาร์โบไฮเดรต⁠

⁠

ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว⁠

⁠

• เหมาะสำหรับใช้ในการประกอบอาหารเนื่องจากมีจุดเดือดต่ำ ⁠

• ช่วยเพิ่ม HDL cholesterol ⁠

• ดีต่อผิวพรรณ ⁠

• ดูและระบบภูมิคุ้มกัน ⁠

• ดูดซึมช้า

ปรึกษาเรื่องสารอาหารเพิ่มเติมกับนักโภชนาการได้ที่⁠

Line :@pealicious⁠ หรือ click https://lin.ee/ileGPLS