ลดน้ำหนักวิธีไหน เหมาะกับคุณ เทคนิคการทานแบบ IF หรือ ลดแคลอรี่ วิธีไหนไขมันลงไวสุด
มาถึง episode สุดท้าย ที่พีลิเชียสทำการสรุปเปรียบเทียบผลลัพธ์ของกลุ่มทดลองจากงานวิจัยล่าสุดว่า แล้วการทำ Intermittent Fasting ( IF ) แบบ วันเว้นวันหรือ Alternate day fasting และ การจำกัดปริมาณแคลอรี่ต่อวัน หรือ Calories restriction หรือที่หลายๆท่านเรียกกันติดปากว่า "การคุมแคล หรือ การนับแคล" แบบไหนเหมาะกับคุณ
Episode ที่แล้วว่าด้วยความสัมพันธ์ของ aging และ Intermittent Fasting หรือการทานแบบ IF เพื่อการชะลอวัย ใครสนใจอยากทราบสาเหตูว่าทำไม Intermittent Fasting จึงถูกใช้เป็นศาสตร์แห่งการชะลอวัย ในรายละเอียดแบบเต็มๆ อ่านได้ในโพสก่อนหน้านี้นะคะ หรือ คลิ๊กที่ปุ่ม " click me" ด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
มาเลือกวิธีลดน้ำหนักที่ใช่ให้เหมาะกับคุณ!
จากเรื่อง “A randomized controlled trial to isolate the effects of fasting and energy restriction on weight loss and metabolic health in lean adults”
ซึ่งเป็น research ล่าสุดของปีที่ศึกษาโดยเปรียบเทียบระหว่าง alternate day intermittent fasting 150% vs calories restrictions 25% vs alternate day fasting 200%
ผลโดยเปรียบเทียบพบว่า การจำกัด calories 25% หรือทานเพียงแค่ 75% ของแคลอรีที่ร่างกายต้องการต่อวัน ให้ผลดีที่ในในแง่ของ การลดน้ำหนักโดยรวม และการลด fat mass โดยรวมของร่างกาย โดยที่มวลกล้ามเนื้อลดลงในอัตราส่วนที่น้อยที่สุดโดยเปรียบเทียบกับวิธีอื่นๆ จึงอาจจะเหมาะกับกลุ่มคนที่ต้องการดูแลรูปร่าง สัดส่วน ของร่างกาย
แต่ไม่ใช่ว่า IF นั้นไม่ดี เพราะในการศึกษากลับพบตัวเลขที่น่าสนใจจาก alternate day fasting 150% หรือการทานอาหารแบบวันเว้นวัน โดยวันที่เป็นวัน Feed day ทานอยู่ที่ 150% ของปริมาณพลังงานที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
สำหรับกลุ่มทดลองที่ทำ alternate day fasting 150% มีตัวเลขที่ดีขึ้นกว่า calories restriction 25% ในบริเวณศึกษาดังต่อไปนี้
1 visceral fat
2 triglyceride
3 ค่า HDL ที่เพิ่มสูงขึ้น (ไขมันดี)
4. reverse aging (ชาวยชะลอวัย)
ซึ่งทั้ง triglycerides และ visceral fat มีผลโดยตรงกับ Insulin resistant ซึ่งสภาวะ insulin resistant ทำให้ระดับกลูโคสในเลือดมีปริมาณที่มาก และกลูโคสเหล่านี้จะไปรวมกับโปรตีนทั่วร่างกายเกิด กระบวนการที่เรียกกว่า non enzymatic glycation และจากการทำปฏิกริยาเชิงเคมีนี้ จะได้ by products อย่าง advanced glycosylation endproducts (AGEs) แต่ AGEs นี้จะไม่สลายไปเหมือนกับ by products อื่นๆ แต่จะรวมตัวกันทั่วร่างกาย และส่งผลให้ Cells รวมไปถึงระบบหลอดเลือดทำงานได้ประสิทธิภาพลดลง การลำเลียงอาหารไปซ่อมแซมเซลส์ทำได้ช้าลง หรือถึงขั้นทำไม่ได้เลย ถ้าเกิดกับดวงตา ก็จะเริ่มมองเห็นไม่ชัด ถ้าเกิดกับเซลส์ผิว ก็คือความเหี่ยวย่น
สุดท้ายนี้ Pealicious อยากจะบอกไว้ว่าไม่มีวิธีไหน เป็นเลิศที่สุด แต่อยู่ที่เป้าหมายของเราต่างหากที่เราต้องใช้ความรู้ในการเลือกเครื่องมือให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
แล้วเป้าหมายของคุณล่ะเป็นแบบไหน? อยากหุ่นดี? หรืออยากชะลอความแก่ไว้ให้มาเจอกันช้าๆหน่อย?
สามารถ follow เราได้ทาง social media (IG: pealiciouswellnessth) เพื่อจะที่คุณจะได้รับสาระ ความรู้จากงานวิจัยใหม่ล่าสุดก่อนใคร
Pealicious พร้อมจัดสรรตัวช่วยสุขภาพจากไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทักมาปรึกษา nutritionist team ได้เลยนะคะ
Line :@pealicious หรือ CLICK
Comments