"ภาวะก่อนเป็นเบาหวาน" 7 สัญญาณเตือนภัย คุณอาจเป็นโรคเบาหวานไม่รู้ตัว

โรคเบาหวานเป็นได้ แม้ไม่ใช่กรรมพันธุ์

เบาหวาน โรคอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน หลายคนเข้าใจว่าคนที่เสี่ยงเป็นเบาหวานต้องเป็นโรคทางกรรมพันธุ์เท่านั้น ที่จริงแล้ว lifestyle ของเราเองก็เป็นปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน จนไปถึงเรื่องความเครียด ที่สำคัญคือ ช่วง stage ก่อนเป็นเบาหวาน หรือ pre diabete นั้น แทบไม่มีความรุนแรง มีแค่อาการและสัญญาณเล็กน้อยที่แสนจะธรรมดา จนอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นอาการของโรคอื่น และกลายเป็นโรคเบาหวานโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นการสังเกตตัวเองเลยเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย

วันนี้ Pealicious มี 7 อาการของภาวะก่อนเบาหวานให้ทุกคนลองสังเกตุตัวเองดูค่ะ ถ้ารู้สึกว่าเรามีอาการที่เข้าข่าย จะได้ไปพบคุณหมอแต่เนิ่น ๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือน และนำไปสู่โรคเบาหวาน

อาการของภาวะก่อนเบาหวานมีอะไรบ้าง

ภาวะก่อนเบาหวานส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่เราสามารถพบอาการเหล่านี้ได้

• ปัสสาวะบ่อยและปริมาณมาก หรือต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหลายครั้ง ฮอร์โมนอินซูลิน (insulin) จะเป็นตัวนำน้ำตาลไปยังเซลล์ต่าง ๆในร่างกาย เพื่อใช้เป็นพลังงาน แต่ในร่างกายผู้ที่เป็นเบาหวานจะพบว่าตับอ่อนไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลินหรือหลั่งออกมาในปริมาณที่ไม่เพียงพอต่อร่างกาย หรือฮอร์โมนอินซูลินที่ผลิตออกมาไม่สามารถทำงานได้ปกติ จึงส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นกว่าปกติ และไตที่มีหน้าที่กรองของเสียออกจากเลือดก็ไม่สามารถกรองน้ำตาลกลับเข้าสู่เลือดได้ น้ำตาลและน้ำบางส่วนจึงถูกขับออกมาเป็นปัสสาวะในปริมาณมากกว่าปกติ ดังนั้น ผู้ป่วยยิ่งมีระดับน้ำตาลสูงมากเท่าใดก็ยิ่งปัสสาวะบ่อยและมากขึ้นเท่านั้น ทำให้ต้องตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนหลายครั้ง

• คอแห้ง กระหายน้ำมากขึ้น ผลจากการที่ร่างกายเราเสียน้ำไปจากการปัสสาวะที่บ่อยในปริมาณที่มากเพราะไตไม่สามารถกรองน้ำตาลกลับเข้าไปในเลือดได้ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ เพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียกลับเข้าไปทดแทน เราเลยรู้สึกคอแห้ง หรือ กระหายน้ำบ่อยๆ

• หิวบ่อย เนื่องจากร่างกายขาดพลังงาน จึงทำให้รู้สึกหิวบ่อย และรับประทานจุ

• อ่อนเพลีย ปกติอาหารที่เราทานเข้าไปจะถูกย่อยและกลายให้เป็นน้ำตาลกลูโคส เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงานให้แก่เซลล์ต่าง ๆ แต่เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายของผู้ที่เป็นเบาหวานไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้เพียงพอ เลยทำให้เกิดอาการเหนื่อยง่าย รู้สึกอ่อนเพลียมากกว่าคนปกติ นอกจากนี้ยังหิวบ่อยขึ้นจากการที่ร่างกายขาดแหล่งพลังงาน

• มองภาพไม่ชัด สายตาแย่ลง มีอาการตาพร่ามัว หลายคนอาจคิดว่าตัวเองสายตาสั้น หรือนอนน้อยจนทำให้มองอะไรแล้วเบลอๆ แล้วพุ่งเป้าไปตรวจวัดสายตา แต่อาการเหล่านี้อาจเป็น sign ที่เราอยากให้ระวังค่ะ ในอาการของคนที่เป็นเบาหวานส่วนมากจะพบว่า เกิดการคั่งของน้ำตาลในเลนส์ตาจนทำให้จอตาผิดปกติ หรือมีระดับน้ำตาลสูงมาเป็นเวลานานจนเกิดความผิดปกติของจอตา ในบางรายที่อาการรุนแรงอาจส่งผลถึงปัญหาสายตาในระยะยาว

• น้ำหนักลด ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ดี หลายคนที่ชั่งน้ำหนักแล้วนำ้หนักลด หรือรู้สึกตัวเล็กลงคงดีใจ ถ้าเราน้ำหนักลดฮวบฮาบ โดยที่ไม่ได้มีการคุมอาหาร หรือออกกำลังกายที่ต่างไปจาก lifestyl ปกติ ควรระวังนะคะเพราะการที่น้ำหนักตัวเราลดลงผิดปกติ อาจเกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เนื่องจากในภาวะที่ขาดอินซูลิน ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้ ร่วมกับการขาดน้ำจากการปัสสาวะบ่อย ร่างกายเราจึงจำเป็นต้องนำเอาโปรตีนและไขมันที่เก็บสะสมไว้ในเนื้อเยื่อมาใช้แทน จึงทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และน้ำหนักตัวลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ

• เป็นแผล หรือฟกช้ำง่าย หายช้า เมื่อระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้นจะส่งผลต่อกระบวนรักษาซ่อมแซมของร่างกายที่ช้าลง เนื่องจากเกิดการสะสมของชั้นไขมันที่หนาขึ้น ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี เลือดไปเลี้ยงเซลล์และอวัยวะได้ไม่ดี หลอดเลือดเกิดการแข็งตัว และในกรณีที่เกิดแผลขึ้นมายังส่งผลให้แผลหายช้ากว่าปกติ เกิดการติดเชื้อได้เช่นกัน เพราะความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาวลดลง

ถ้าใครตรวจเช็คแล้วมีอาการเหล่านี้ และมีความเสี่ยงเป็นเบาหวาน ควรรีบพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรักษา และควรเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารและทานยาตามแพทย์สั่ง หากอยู่ในกลุ่มที่มีภาวะความเสี่ยง ควรหาทางป้องกันไว้ เพราะโรคเบาหวานไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ค่ะ

ถ้ามีอาการตาม checklists สามารถรักษาและการดูแลตัวเองทำได้อย่างไร?

การปรับเปลี่ยน lifestyle และพฤติกรรมบางอย่าง เช่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ลดการรับประทานอาหารจำพวกไขมัน แป้ง น้ำตาล หยุดสูบบุหรี่ จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะก่อนเบาหวานได้ค่ะ หรือสำหรับใครที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะก่อนเบาหวานแล้ว การปรับเปลี่ยนอาหาร lifestyle และพฤติกรรม ยังจำเป็นและเป็นสิ่งที่ควรกระทำต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคเบาหวานต่อไป

สำหรับใครมองหาโปรตีนเสริมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ทานควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อนักโภชนากรของ Pealicious ได้ตลอดนะคะ

ปรึกษา nutritionist team ได้ที่ Line @pealicious ⁠หรือ

ข้อมูลโปรตีนพืชออแกนิคไร้น้ำตาลและคอเรสเตอรอล และรายละเอียดเพิ่มเติม https://shop.line.me/@pealicious